แหกคุกชนิดโลกตะลึง

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
11 สิงหาคม 2558

          คงไม่มีการแหกคุกครั้งใดใน 100-200 ปีที่ผ่านมาซึ่งยิ่งใหญ่เท่าครั้งที่ผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้ของยอดนักค้ายาเสพติดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก จะไม่สุดยอดได้อย่างไรในเมื่อเขาหนีออกจากคุกผ่านอุโมงค์ที่ขุดขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะยาว 1.5 กิโลเมตร

         Joaquín Guzmán คือชื่อจริงของเขา แต่ผู้คนรู้จักเขาในนาม “El Chapo” หรือ “ไอ้เตี้ย” แห่งเม็กซิโก ปัจจุบันอายุ 58 ปี มีภรรยาไม่ต่ำกว่า 4 คน และมีลูกไม่ต่ำกว่า 10 คน

         สื่อระบุว่าเขาเป็นคนรวยอันดับ 10 ของเม็กซิโก (ลำดับที่ 1,140 ในโลก) โดยมีมูลค่าสุทธิประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (33,000 ล้านบาท) อีกทั้งเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดอันดับสองของเม็กซิโก รองจากนาย Carlos Slim (เศรษฐีอันดับหนึ่งของเม็กซิโก และระหว่างปี 2010 ถึง 2013 เขารวยที่สุดในโลก รวยกว่า Warren Buffett และ Bill Gates) นอกจากความรวยแล้วก็ยังมีความเลวติดอันดับหนึ่งของโลก ทางการสหรัฐเรียกเขาว่า “นักค้ายาเสพติดที่มีอิทธิพลที่สุดของโลก” “เจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกยุค” 

         แก๊งค์ของเขาคือ Sinaloa Cartel (Sinaloa เป็นบ้านเกิดของเขาซึ่งเป็นรัฐหนึ่งของเม็กซิโก) ในตอนแรกทำหน้าที่ลักลอบโคเคนจากโคลัมเบียผ่านเม็กซิโกไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งบริโภคโคเคนใหญ่สุดของโลก โดยเขามีเครือข่ายผู้ค้าปลีกกระจายอยู่ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา 

         แค่นั้นไม่พอต่อมาแก๊งค์ของเขายังเกี่ยวพันกับการผลิต ลักลอบนำเข้า ขายปลีกสาร Methamphetamine (ซึ่งใช้ผลิตยาบ้า) กัญชา ยาอี (Ecstasy หรือ MDMA) ตลอดจนเฮโรอีนไปทั่วทั้งอเมริกาเหนือและยุโรป เขาค้าขายกว้างขวางจนมีสถิติว่าขณะที่เขาถูกจับในปี 2014 Chapo ลักลอบนำยาเสพติดเข้าสหรัฐอเมริกามากกว่าใครทั้งหมดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์

         ด้วยผลงานทั้งหมดที่กล่าวมา Chapo จึงเป็นที่หมายปองอย่างยิ่งของทางการสหรัฐอเมริกา ค่าหัวของเขาคือ 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไม่ว่าค่าหัวจะสูงอย่างไร ปลาไหลอย่างเขาก็ยากนักที่จะถูกจับได้เพราะเขามีเงินมหาศาลเป็นเมือกแสนลื่น

         ชีวิต Chapo ลำบากตอนเด็กเพราะต้องช่วยพ่อทำเกษตรกรรมซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการปลูกฝิ่น รัฐ Sinaloa บ้านเกิดมีพื้นที่และภูมิอากาศเหมาะสม เขาได้รับการศึกษาลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพราะขาดครูในบริเวณภูเขากันดาร Chapo ถูกพ่อเฆี่ยนตีอยู่เสมอถึงแม้จะช่วยพ่อทำงานหนักทั้งปลูกฝิ่น และปลูกกัญชา ตอนเป็นวัยรุ่นเขาถูกพ่อไล่ออกจากบ้านจึงไปอยู่กับปู่และญาติพี่น้อง และก็ได้พบลุงซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกค้ายาของเม็กซิโก

         Chapo ร่วมงานค้ายาจากตำแหน่งเล็ก ๆ ในกลุ่มผู้ผูกขาดค้ายาเสพติดของรัฐ เมื่อแสดงฝีมือลายมือในความกล้ายิงหัวปรปักษ์ทุกคน บวกความฉลาดเจ้าเล่ห์ ความทะเยอทะยาน ความมีใจนักเลงกล้าได้กล้าเสีย และความสามารถในการจัดการ Chapo ก็ใหญ่โตขึ้นเป็นลำดับ

         จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นหลังจากการฆ่าฟันกันอย่างโหดเหี้ยมระหว่างแก๊งค์เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ มีทั้งเรียกค่าไถ่ ทรมาน ยิงทิ้งญาติและลูกเมียฝ่ายตรงข้าม Chapo ผู้มีส่วนร่วมด้วยอย่างแข็งขันก็ก้าวขึ้นเป็นใหญ่เต็มตัวในปี 1995 แทนลูกพี่ซึ่งถูกจับ

         ในช่วงปี 1993 ที่ Chapo กำลังจะเป็นหัวโจก ทางการก็ตระหนักในความสำคัญของเขา และพุ่งเข้ามาที่ตัวเขาจนต้องหนีไปอยู่ประเทศกัวเตมาลา และถูกจับส่งตัวกลับไปเข้าคุกที่เม็กซิโก ในคุกที่มีการคุ้มกันแข็งขันที่สุดด้วยสารพัดข้อหา

         ในขณะที่อยู่ในคุก เขาก็ค้ายาเสพติดไม่หยุด โดยมีน้องชายเป็นมือเป็นแขน ขณะที่อยู่ในคุกก็สุขสบายเพราะเขามีเงินสดเป็นกระเป๋ามาแจกผู้คุม เขาติดคุกไปในขณะเดียวกับที่ธุรกิจใหญ่โตขึ้นเป็นลำดบ Chapo ติดคุกอยู่ 8 ปี และในปี 2001 ผู้คุมหลายคนก็ร่วมมือให้เขา โดดลงไปซ่อนตัวในรถเข็นผ้าซักและขึ้นรถหลบหนีออกไปจากคุกอย่างลอยนวล

         ทั้งหมดนี้เขาติดสินบนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในทุกระดับ มีตัวเลขว่าเขาจ่ายเงินไปทั้งหมด 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่เขาได้รับขณะที่อยู่ในคุก

         เมื่อ Chapo ออกมานอกคุกก็พยายามปราบแก๊งค์อื่น ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จสมบูรณ์ถึงแม้จะเรียกได้ว่าเป็นหัวโจกของการค้ายาเสพติดในเม็กซิโกและโลกก็ตาม ทางการเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกาควานหาตัวเขาอย่างหนักหน่วง แต่ก็หลุดรอดไปได้ทุกครั้ง จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ในปี 2014 หลังจากหนีรอดไปได้ 13 ปี

         ทางการรู้ว่าเขาอยู่ในถิ่นปลูกฝิ่นของบริเวณรัฐบ้านเกิดแต่ก็เข้าไปจับได้ลำบากมากเพราะมีคนคุ้มกันไม่ต่ำกว่า 300 คน และหลบอยู่ในบริเวณที่เข้าไปถึงได้ยาก ฝ่ายตามล่าจึงต้องรอให้เขาออกมาเพราะความชะล่าใจ ในที่สุดเขาก็ถูกจับได้ในตอนต้นปี 2014 ในโรงแรมริมทะเลเมือง Mazatlán โดยหนึ่งในผู้คุ้มกันแอบให้ข้อมูลแก่ทางการ

         Chapo อยู่ในคุกที่ทางการมั่นใจว่าไม่มีทางหนีรอดเด็ดขาดเนื่องจากมีบทเรียนจากการหนีครั้งที่แล้วเพื่อรอส่งตัวไปขึ้นศาลที่สหรัฐอเมริกาในหลายข้อหาหนักซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีทางหลุดรอดออกมาได้อีกเลยตลอดชีวิต

         เขาถูกขังในห้องเดี่ยวที่มีกล้องโทรทัศน์จับตาดูการเคลื่อนไหวของเขา 24 ชั่วโมง ไม่มีการเยี่ยมหรือประกัน ไม่ให้ติดต่อกับใครเลยทั้งในและนอกคุก วันหนึ่งเขามีเวลาออกนอกห้องที่ไม่มีหน้าต่างเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

         หลังจากถูกจองจำอยู่ได้ 17 เดือนในคุกที่ถือว่าสุดยอดที่สุดในการควบคุมดูแล ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2015 เวลาประมาณสามทุ่ม Chapo ก็หายตัวไปจาก Federal Social Readaptation Center No. 1 ของเม็กซิโก ราวกับเป็นนักเล่นกลฝีมือระดับฮูดินี

         เมื่อผู้คุมที่เฝ้ากล้องโทรทัศน์ไม่เห็นตัวเขาเป็นเวลา 18 นาที เพราะเดิมเข้าใจว่าเขาอยู่ในส่วนที่เป็นห้องอาบน้ำซึ่งกล้องถ่ายเข้าไปไม่ถึงเพื่อความเป็นส่วนตัว ก็เอะอะโวยวายขึ้น และกว่าผู้คุมคนอื่น ๆ จะค่อย ๆ เดินมาเวลาก็ผ่านไปอีก 30 นาที เมื่อค้นห้องก็พบว่าเขาหายลงไปในท่อน้ำทิ้งของห้องอาบน้ำ

         เมื่อตรวจเช็คว่าคนจะกลายเป็นน้ำหายไปได้อย่างไรก็พบว่าท่อน้ำทิ้งนั้นเชื่อมต่อไปยังอุโมงค์ลึกลงไปจากผิวดิน 10 เมตรขนาดความสูง 168 เซนติเมตร และกว้าง 70 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยเชื่อมไปถึงบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่า

         ในอุโมงค์ซึ่งมีการสร้างอย่างแข็งแรงมีระบบระบายอากาศอย่างดี พบมอเตอร์ไซค์ และบันไดเพื่อใช้ไต่ขึ้นลง ซึ่งกว่าจะพบอุโมงค์และบ้านปลายทาง Chapo ก็หายตัวไปนานหลายชั่วโมงแล้ว

         การหนีครั้งที่สองนี้เป็นเรื่องใหญ่โตระหว่างประเทศ เพราะเขาเป็นคนดังมาก และสหรัฐอเมริกาก็เตรียมลับมีดรออยู่อย่างมั่นใจ จากการสอบสวนในขั้นต้นก็พบว่ามีการให้สินบนมูลค่ามหาศาลแก่ทุกระดับ มิฉะนั้นจะมีอุโมงค์ซึ่งเป็นเครื่องมือโปรดของเขาในการขนยาเสพติดข้ามพรมแดนสหรัฐอเมริกาเพื่อช่วยในการหนีได้อย่างไร

         การผลิตและค้ายาเสพติดนำไปสู่การแตกสลายของชีวิตมนุษย์และครอบครัว สร้างความเจ็บปวด และรอยน้ำตาอย่างเหลือที่จะพรรณา คนเหล่านี้มองไม่เห็นหรือไม่ต้องการเห็นเพราะความโลภได้บดบังความถูกต้องและความดีงามอย่างมิดชิด