เลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
15 ธันวาคม 2558

           ฟิลิปปินส์เพื่อนที่สำคัญของไทยใน ASEAN กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ การหาเสียงเลือกตั้งจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 การเลือกตั้งครั้งนี้ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการเมืองระดับโลกทีเดียว

          ฟิลิปปินส์มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก ๆ 6 ปีในวันจันทร์ที่สองของเดือนพฤษภาคม และประธานาธิบดีเริ่มทำงาน 30 มิถุนายน การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างต่อเนื่องนับเป็นเวลา 30 ปีนับตั้งแต่ ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา

          ทวนความจำกันเล็กน้อย หลังจากการเมืองวุ่นวาย มีปฏิวัติ มีการประท้วง ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี Marcos ในที่สุดในปี 1986 ก็ได้นาง Corozon Aquino เป็นประธานาธิบดี ต่อด้วย Fidel Ramos / Joseph Estrada / นาง Gloria Arroyo และ Benigno Aquino III ประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้รับเลือกตั้งในปี 2010 ดังนั้นจึงหมดวาระในปี 2016 เนื่องจากเป็นได้วาระเดียวเท่านั้นคือ 6 ปี

          ในช่วงเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์เป็นประเทศใหญ่ใน ASEAN ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุด ระดับเครดิตของประเทศในระดับโลกได้รับการปรับขึ้นโดยองค์กรจัดเครดิตใหญ่ทุกแห่ง ถึงแม้จะยังอยู่หลังหลายประเทศใน ASEAN เนื่องจากมีประชากรขนาดใหญ่ (ครั้งหนึ่งเมื่อ 20 กว่าปีก่อนมีประชากรใกล้เคียงกับไทยคือ 45 ล้านคน แต่ปัจจุบัน 100 ล้านคน) การขยับตัวทางเศรษฐกิจจึงต้องการการลงทุนขนาดใหญ่มากทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บริการสาธารณะ บริการสาธารณสุข ฯลฯ

          อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีคนปัจจุบันซึ่งมีชื่อเล่นว่า Noynoy เป็นลูกชายของนาง Corozon Aquino ก็ทำได้ดีมาก เศรษฐกิจพลิกผันจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เมื่อวาระสิ้นสุดลงผู้คนจึงมีคำถามว่าแล้วใครจะมาเป็นต่อเพื่อให้แน่ใจว่านโยบายที่ได้วางไว้มีการสานต่อ

          ตลอดปี 2015 มีการต่อสู้ทั้งลับและแจ้งเพื่อแย่งชิงการสนับสนุนจากประธานาธิบดี เพราะหากได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยก็จะได้เปรียบอย่างมากเนื่องจากประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้รับความนิยมจากผลงานเศรษฐกิจและการปราบปรามคอรัปชั่น

          การเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์นั้นแปลกกว่าหลายประเทศ กล่าวคือประชาชนสามารถเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่ต่างพรรคกันได้ ดังนั้นบ่อยครั้งที่ตัว รองประธานาธิบดีขัดแย้งกับประธานาธิบดีเพราะมาจากกลุ่มสนับสนุนคนละกลุ่ม

          ฝุ่นได้จางลงแล้วจนพอเห็นภาพว่าจะมีใครเป็นผู้สมัครคนสำคัญที่พอมีสิทธิ์ลุ้นเป็นประธานาธิบดี ในการเมืองฟิลิปปินส์ไม่อาจอ้างอิงการเป็นตัวแทนพรรคได้เพราะพรรคเกิดและตายกันเป็นว่าเล่น ชื่อพรรคแทบจะไม่มีความหมายเพราะประชาชนนิยมตัวบุคคล ไม่ใช่พรรค เมื่อนิยมตัวบุคคลใดก็นิยมลงไปถึงลูก หลาน ภรรยา ญาติ ด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเมืองของกลุ่มผลประโยชน์ ของกลุ่มเครือญาติ และของกลุ่มคนชอบพอกันเป็นพิเศษ และข้ามหลายชั่วคนด้วย

          คนแรกสุดที่มาแรงเป็นหญิงชื่อ Grace Poe อายุ 47 ปี เป็นละอ่อนทางการเมืองเพราะ เพิ่งเป็นวุฒิสมาชิกในปี 2013 แต่ที่ดังก็เพราะในปีนั้นเธอได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนอย่างถล่มทลาย สาเหตุหนึ่งที่เธอได้รับความนิยมก็เพราะเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของ Farnando Poe (FPJ) ราชาพระเอกหนังยอดนิยมในอดีต

          FPJ เป็นที่รักและชื่นชมของคนฟิลิปปินส์มาก เขาลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 1992 แข่งกับนาง Gloria Arroyo อย่างสูสี เชื่อกันว่าในครั้งนั้นมีการโกงเลือกตั้งกันแหลกลาญซึ่ง โดยแท้จริงแล้วเขาควรได้เป็นประธานาธิบดีด้วยซ้ำ

          Grace Poe ขณะนี้ได้รับความนิยมในโพลสูงสุดคือร้อยละ 26 ซึ่งไม่ทิ้งห่างคนอื่นมากนัก เธอเรียนจบรัฐศาสตร์และเป็นนักธุรกิจ เรียนจบ University of the Philippines (UP) และ Boston College เธอถูกโจมตีว่าอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ไม่ครบ 6 ปี ก่อนสมัครเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญบังคับ

          คนที่สองคือ Jejomar Binay อายุ 73 ปี ปัจจุบันเป็นรองประธานาธิบดี เคยเป็นนายกเทศมนตรีของ Metro Makati เป็นนักการเมืองเก่าแก่ ขณะนี้บัญชีในธนาคารถูกอายัดเพราะถูกสอบสวนข้อหาคอรัปชั่นสมัยเป็นนายกเทศมนตรี คนนี้กำลังเป็น “ผู้ร้าย” ในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้

          คนสุดท้ายน่าสนใจมากเพราะในที่สุดแล้วตำแหน่งประธานาธิบดีน่าจะไม่พ้นมือเขาเพราะพื้นฐานการศึกษา ผลงานในอดีต และความเป็น “ลูกท่านหลานเธอ” ในการเมืองฟิลิปปินส์ ชื่อของเขาคือ Manuel Roxax II หรือชื่อเล่นว่า Mar (นักการเมืองฟิลิปปินส์มีชื่อเล่นทุกคน บ้านเราก็มีและเรียกแบบนับญาติโดยมีตั้งแต่พี่ลุงป้าน้าอารวมทั้งไอ้ด้วย)

          Mar อายุ 58 ปี เรียนจบ Wharton พ่อเป็นอดีตวุฒิสมาชิก และเป็นหลานปู่ของอดีตประธานาธิบดี Roxas ส่วนตานั้นเป็นมหาเศรษฐีอุตสาหกรรม Mar เคยเป็น ส.ส. และ ส.ว. และรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญหลายกระทรวง เช่น คมนาคม พาณิชย์ ฯลฯ

          ในปี 2010 เขาเป็นตัวเก็งที่จะลงแข่งเป็นประธานาธิบดีเพราะชื่อเสียงจากผลงาน และพื้นฐานนิยมในการเป็นหลานปู่ของอดีตประธานาธิบดี แต่เมื่อ Corazon Aquino เสียชีวิตในปี 2009 อารมณ์ความรู้สึกของคนฟิลิปปินส์ที่อาลัยรักเธอเทให้ลูกชายของเธอคือ Noynoy ซึ่งไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อนจนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี

          ครั้งนั้น Mar ถอนตัวจากการลงสมัครหลังจากหารือกับ Noynoy และสมัครเป็น รองประธานาธิบดีคู่กันแต่ไม่ได้รับเลือกเพราะพ่ายแพ้แก่ Binay ใน 6 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นรัฐมนตรีคู่คิดของประธานาธิบดี และในที่สุดเมื่อกลางปี 2015 ประธานาธิบดีก็ประกาศสนับสนุนเขาให้เป็นทายาท

          เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีคู่กับเขาเป็นผู้หญิง คือ Leni Robredo เป็นภรรยายหม้ายของอดีตรัฐมนตรี Jesse Robredo ซึ่งมีชื่อเสียงและน่าจะเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีด้วยหากไม่เสียชีวิตเสียก่อนเมื่อมีอายุเพียง 54 ปี Leni เรียนจบเศรษฐศาสตร์จาก UP และต่อมาเรียนกฎหมาย ปัจจุบันเธอเป็น ส.ส. อายุ 51 ปี มีลูก 3 คน

          การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญเพราะประธานาธิบดีคนปัจจุบันมีนโยบายแข็งกร้าวกับจีนโดย ต่อสู้เรื่องการครอบครองหมู่เกาะทะเลจีนใต้ (สิ่งที่อยู่ใต้ทะเลในรัศมี 200 ไมล์ทะเล เป็นสมบัติของผู้เป็นเจ้าของเกาะ) โดยมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุนเต็มที่ ขณะนี้ฟิลิปปินส์พร้อมที่จะให้สหรัฐอเมริกากลับมาตั้งฐานทัพใน Subic Bay และ Palawai นอกจากนี้ฟิลิปปินส์ได้ฟ้องจีนในศาลโลกด้วยในกรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะนี้โดยมีกองเชียร์แข็งขันในโลก

          หาก Binay ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นโยบายก็จะเปลี่ยนเพราะเขาระบุว่าต้องการการประนีประนอมกับจีน ส่วน Poe และ Mar นั้นหากได้รับเลือกก็คงสานนโยบายเดิมต่อไป

          การหาเสียงมีเวลา 3 เดือน เริ่มต้นกุมภาพันธ์จนถึงกลางพฤษภาคม 2016 ดังนั้นจึงมีเวลายาวนาน ความผันผวนของความนิยมนั้นเกิดขึ้นได้ไม่ยากในช่วงเวลาที่ยาวเช่นนี้ การขุดประวัติและเรื่องอื้อฉาวในอดีตขึ้นมาถล่มกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนมาตรฐานการหาเสียงทั่วโลก

          ผลจากโพลความคิดเห็น (Opinion Poll) นั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามความนิยม ณ จุดนั้นของเวลาและวิธีการทำโพล ดังนั้นจึงไม่น่าเชื่อถือเท่าการลงคะแนนกันในวันเลือกตั้ง (Poll)