อุดมการณ์และเจ้าหน้าที่รัฐ

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
13
พฤษภาคม 2557

Photo by AJ Colores on Unsplash

          การทำงานที่ขาดอุดมการณ์ทำให้ได้ผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานและไม่สมประโยชน์กับทรัพยากรที่ต้องเสียไป บ้านเราตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีหลักฐานมากมายว่าการขาดอุดมการณ์ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของภาครัฐมีบทบาทอย่างสำคัญในการทำให้ประเทศของเราไม่อยู่ในสภาพที่ควรจะดีกว่านี้มาก

          เกาหลีใต้ประสบวิกฤตเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงไล่เลี่ยกับไทยใน พ.ศ. 2540 ถ้าใครพิจารณาเกาหลีใต้ในปัจจุบันให้ดีจะเห็นว่าในเวลา 10 กว่าปีเขาก้าวไปไกลมาก ๆ ทั้งในเรื่องคุณภาพชีวิตของผู้คน ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความสะอาดงดงามของถนนหนทางและตึกรามบ้านช่อง โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ฯลฯ พูดได้สั้น ๆ ว่าน่าประทับใจมากในความก้าวหน้าของประเทศเขา

          มาเลเซียประสบวิกฤตเศรษฐกิจไล่เลี่ยกับไทยในยุค “ต้มยำกุ้ง” แต่ปัจจุบันมาเลเซียมีรายได้ต่อหัวที่สูงกว่าไทย 1 เท่าตัว มีคุณภาพการศึกษาเป็นที่ยอมรับของชาวโลก ภาครัฐมีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยเป็นระเบียบกว่าก่อนเป็นอันมาก

          ตัวอย่างไม่ไกลบ้านเราก็มีอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ ประเทศเหล่านี้ไปไกลกว่าเรามากเพราะเจ้าหน้าที่รัฐของเขามีอุดมการณ์ในการทำงาน มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการทำงานอย่างดีที่สุดในหน้าที่ของตนให้สมกับเงินเดือนที่มาจากภาษีอากรของประชาชน

          เราจะไม่เห็นฝาท่อริมถนนเปิดค้างทิ้งไว้เป็นวัน ๆ โดยไม่มีใครสนใจ ไม่เห็นสายโทรศัพท์ที่หลุดห้อยลงมาเป็นเดือน ๆ และยุ่งตีกันเหมือนฝูงงูเล็กขดกันอยู่ ไม่เห็นการใช้เวลา โทรศัพท์เรียกตำรวจ 911 ที่มาถึงช้ากว่าการโทรเรียกคนส่งพิซซ่า ไม่เห็นถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อนาน เป็นเดือน ไม่เห็นหลุมที่ขุดค้างไว้บนถนนเพราะขาดการประสานงานระหว่างประปาและไฟฟ้า ไม่เห็นการใช้เงินที่ขาดประสิทธิภาพ เช่น เลือกตั้งครั้งที่แล้วใช้เงินไป 3,885 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ฯลฯ

          เจ้าหน้าที่รัฐของบ้านเราส่วนใหญ่สักแต่ว่าทำงานให้พ้น ๆ ไปในแต่ละวันนับตั้งแต่ข้างบนจนมาล่างสุด เราขาดคนจำนวนมากที่ทุ่มเทให้งานอย่างทำให้แน่ใจได้ว่างานที่เขารับผิดชอบนั้นเกิดเป็นผลขึ้นอย่างจริงจัง และขาดระบบของการสร้างความต่อเนื่องของนโยบาย

          ไม่ว่ารถจะติดกันหนักหนาแค่ไหนเพราะแค่รถ 2 คนสะกิดกันจนเผาผลาญน้ำมันมากมาย คน 2 คนนั้นก็ไม่แคร์และไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นตราบที่ตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่ใส่ใจเพราะก็ไอ้แค่รถติดเท่านั้น เวลาจะสูญไปเท่าใดก็เป็นเรื่องของคนอื่น ความรู้สึกว่าต้องเร่งรีบเพราะสังคมเรากำลังสูญเสียจากเหตุการณ์ไร้สาระเช่นนี้หาได้ยาก

          การประสานงานในระบบราชการก็มีน้อย ฉันทำของฉันอย่างนี้แหละและเท่านี้แหละที่พอจะประคองฉันให้ไปได้ ทำไมจะต้องไปประสานงานกับคนอื่นให้ยุ่งยากและอาจทำให้ตนเอง เสียอำนาจด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ก็ช่างมัน เพราะฉันทำงานของฉันเสร็จแล้ว

          สาเหตุของการขาดอุดมการณ์มาจาก (1) การขาดจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนใหญ่ไม่สนใจและแคร์ว่างานของตนในที่สุดแล้วจะมีผลต่อส่วนรวมอย่างไรตราบที่ตนเองเอาตัวรอดได้ก็ก้าวหน้าในงานแล้ว (2) การขาดจิตสำนึกว่าเมื่อทำงานแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ให้ผลงานคุ้มกับภาษีอากรที่บังคับเก็บจากประชาชน (3) ระบบความดีความชอบไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของผลงานขั้นที่มีผลต่อส่วนรวม แต่มักเป็นระบบที่หากเป็นพรรคพวกเดียวกันแล้วก็ช่วยเหลือกันอย่างไม่ใยดีกับความไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

          (4) คอรัปชั่นดาษดื่นในสังคมนับตั้งแต่ข้างบนสุดคือนักการเมืองไล่ลงมาจนถึงข้าราชการชั้นผู้น้อย ปีศาจตนนี้ทำให้จริยธรรมผู้คนเสื่อม วัน ๆ เห็นแต่ธนบัตรลอยอยู่ข้างหน้าจนบดบังจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมและการตั้งใจสร้างผลงานที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้ให้ส่วนรวม

          ปีศาจจากอเวจีตนนี้ทำลายระบบคุณธรรมและนิติธรรมในระบบราชการอย่างป่นปี้ เพราะเมื่อวัตถุประสงค์ของงานเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ละเลยประโยชน์ที่เกิดต่อส่วนรวม การกระทำทุกอย่างเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น

          คำถามก็คือถ้าเราไม่ช่วยกันปราบปีศาจคอรัปชั่นตนนี้ ณ บัดนี้ เมื่อไหร่เราจะปราบกัน และถ้าเราไม่ช่วยกันปราบแล้ว ใครจะปราบให้เรา

          (5) คุณภาพของเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉลี่ยลดต่ำลงเนื่องจากคนมีคุณภาพต่างหันไปทำงานในภาคเอกชนที่มีระบบการทำงานที่สร้างความภูมิใจและสร้างสรรค์คุณค่าให้แก่คนทำงานได้มากกว่า ตลอดทั้งให้ผลตอบแทนสูงกว่าด้วย การเกิดขึ้นของโอกาสและการขยายตัวของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทำให้ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพจำนวนมากไม่ไหลเข้าสู่ระบบราชการ

          ถ้าสังคมไทยไม่แก้ไขปัญหาเหล่านี้ในเวลา 10 ปีข้างหน้า สังคมของเราจะอ่อนแอเพราะขาดภาครัฐที่เข้มแข็งซึ่งสืบเนื่องมาจากการขาดอุดมการณ์ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ นอกจากนี้ความสามารถในการจัดการกับสังคมสูงอายุที่กำลังมาถึงข้างหน้า ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การมีสังคมที่มั่นคงปลอดภัยและน่าอยู่ การจัดการระบบการศึกษาและการเรียนรู้ของชาติ การจัดการเรื่องการต่างประเทศ ฯลฯ จะลดถอยลงไปเป็นอันมากอย่างไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์แวดล้อมที่ต้องการความเข้มแข็งในเรื่องเหล่านี้อย่างมาก

          การขาดอุดมการณ์ในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐส่วนใหญ่เปรียบเสมือนสังคมของเราขาดเครื่องยนต์สำคัญอันจะส่งให้เกิดแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า รถยนต์ที่วิ่งไม่เต็มสูบบนถนนที่ลื่น คดเคี้ยว ลมแรง และเต็มไปด้วยภัยที่ไม่คาดฝันนั้นอยู่ภายใต้อันตรายที่น่าหวาดหวั่นยิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *