พังพินาศเพราะพิโรธ

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
23
ธันวาคม 2557

Photo by Icons8 Team on Unsplash

          ในยุคนี้ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ถั่วถุงเดียวสามารถทำให้ผู้คนโกรธแค้นจนต้องมีคนหลุดจากการเป็นผู้บริหารสำคัญของบริษัทใหญ่ระดับโลกและอาจต้องคดี     ตลอดจนอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกหลายเรื่องในระดับประเทศได้


          ไม่น่าเชื่อว่าคนมีการศึกษาดีขนาดจบปริญญาตรีจาก Cornell University School of Hotel Administration  อันมีชื่อเสียง     และจบ MBA จาก University of Southern California จะเป็นต้นเหตุแห่งเรื่องอื้อฉาวระดับโลกที่มาจากความไม่พอใจถั่วถุงเดียว

          เรื่องไม่น่าเชื่อนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2014 บนเครื่องบินในแถวที่นั่งชั้นหนึ่งขณะที่เครื่องบิน Korean Air เที่ยวบินจาก New York ไป Inchon กำลังวิ่งแท็กซี่จะขึ้นนั้น   Cho Hyun Ah หรืออีกชื่อว่า Heather Cho ก็แผดเสียงขึ้นดังมากด้วยความโกรธ     พร้อมกับด่าทอชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าพนักงานบริการอย่างรุนแรง     แถมเอาแฟ้มพลาสติกตีด้วย       เนื่องจากไม่พอใจที่เอาถั่ว macadamia มาเสิร์ฟเป็นถุง     โดยไม่เสิรฟ์มาในจานอย่างงดงาม

          ไม่มีใครต้านเธอได้เมื่อเธอสั่งให้เครื่องบินวิ่งกลับไปที่ตัวตึกสนามบินเพื่อไล่พนักงานคนนี้ลงจากเครื่อง      เหตุที่ไม่มีใครกล้าหือกับเธอก็เพราะเธอเป็นรองประธานกรรมการ Korean Air และประการสำคัญพ่อของเธอ Cho Yang Ho อายุ 65 ปี เป็นประธานกรรมการ Korean Air

          Korean Air เป็นบริษัทหนึ่งในหลายบริษัทของ Hanjin Group ซึ่งเป็นของครอบครัวเธอในกิจการธุรกิจที่เกี่ยวพันกับโรงแรม       การท่องเที่ยว        การบิน        การหย่อนใจ       ฯลฯ    หากครอบครัวต้องการให้ใครอยู่ในตำแหน่งใดก็ทำกันได้อย่างสะดวก     และเธอผู้อยู่ในวัยเพียง 40 ปี ก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ตามเส้นทางนี้     โดยรับผิดชอบงานด้านการขายของบนเครื่องบิน      กิจการ catering บริการบนเครื่องบิน   ฯลฯ    อย่างมีฝีมือพอตัว

          เมื่อเที่ยวบินนี้ถึงเกาหลีก็เป็นเรื่องขึ้นมาทันที       โทรทัศน์สัมภาษณ์หนุ่มผู้ถูกไล่ลง               จากเครื่อง        สื่อเล่นเรื่องนี้ต่อ       พร้อมกับปฏิกิริยาที่รุนแรงในอินเตอร์เน็ตจากประชาชนที่ไม่พอใจการเบ่งและแสดงออกว่าใหญ่ค้ำฟ้า      สื่อต่างประเทศก็เล่นกันใหญ่ในเชิงขบขันว่า “going nuts on nuts” (going nuts = บ้า   เล่นคำกับ nuts หรือถั่วพอดี)     “Nutgate” (ล้อ Watergate)    ฯลฯ

          การที่ประชาชนไม่พอใจการกระทำใหญ่โตนี้ของเธอก็เพราะไม่พอใจการเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ของตระกูลเหล่านี้อยู่แล้ว (เรียกรวมกันว่า chaebol)   ซึ่งครอบงำการเมืองและเศรษฐกิจเกาหลีมายาวนาน       อีกทั้งลูกหลานมีพฤติกรรมหยิ่งยะโส      ร่ำรวย     แสดงความใหญ่โตให้เห็นอยู่บ่อย ๆ                     ไม่เห็นหัวลูกจ้าง      สิ่งที่รับไม่ได้ก็คือการบังคับให้พนักงานคนนี้คุกเข่าต่อหน้าเธอ       รับฟังคำด่าอย่างสาดเสียเทเสีย

          ในตอนแรกบริษัทยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ ‘เกินไป’ ในการให้เครื่องบินวิ่งกลับไปที่ตึกเพื่อไล่พนักงานลง       ถึง Heather Cho จะออกมาขอโทษแต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องลาออก     แต่เมื่อปฏิกิริยาจากประชาชนหนักขึ้น     พ่อจึงออกมาขอโทษและบอกว่าเลี้ยงลูกมาไม่ดี    จะให้ลูกสาวลาออกจาก                  ทุกตำแหน่งในกลุ่ม      เสียงก่นด่าของประชาชนจึงลดลงไป

          เหตุที่ประธาน Korean Air ออกมาแนวนี้      เข้าใจว่าก็คงเป็นเพราะแรงบีบจากผู้ถือหุ้นร่วมของ Korean Air     ซึ่งถือว่าเป็นสายการบินแห่งชาติ    และผู้พ่อเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจของครอบครัวโดยรวม     โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจกระทบต่อตำแหน่งประธานกรรมการ Pyeongchang Winter Olympics  ในปี 2018 ที่เขาดำรงอยู่

          ครอบครัวนี้คุ้นเคยกับความอื้อฉาวอยู่พอควรแล้ว     Cho ผู้พ่อเคยถูกศาลตัดสินว่า                          หนีภาษีในปี 2000     ลูกชายคนหนึ่งถูกตำรวจสอบสวนในปี 2005 ว่าทำร้ายหญิงชรา   และในปี 2012              ผู้พ่อก็ทะเลาะกับกลุ่มประชาสังคมที่วิจารณ์การบริหารมหาวิทยาลัย Inha  ซึ่งเป็นของ Hanjin Group

          Heather Cho เป็นภรรยาของศัลยแพทย์ตกแต่งชื่อดังของเกาหลี       เธอถูกวิจารณ์ว่าจัดการให้ตัวเองไปอยู่ฮาวายก่อนคลอดลูกแฝดชาย 2 เดือนเพื่อให้ลูกได้สัญชาติอเมริกันจะได้ไม่ต้องเป็นทหารเป็นเวลา 2 ปี เหมือนคนเกาหลีทั่วไป

          ผลกระทบจากการควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพียงชั่วขณะของเธอมีผลกว้างไกลมากในโลกปัจจุบัน     เธอหลุดจากการแข่งขันกับน้องชายและน้องสาวในการสืบทอดบัลลังค์ต่อจากพ่อ     หลุดจากทุกตำแหน่งในทุกบริษัทของกลุ่ม      กำลังถูกพิจารณาดำเนินคดีว่าเป็นสาเหตุทำให้การบินเป็นปัญหา (เครื่องบินอื่นถูกกระทบเพราะเสียเวลาวิ่งไปส่งเจ้าหน้าที่ลงจากเครื่อง       ส่งเสียงดังสร้างความวุ่นวายบนเครื่องบิน)      ทางการกำลังพิจารณาตัดเที่ยวบินของ Korean Air เพื่อเป็นการลงโทษที่ทำให้ผู้โดยสารต้องถูกกระทบจากการกระทำที่ ‘เกินเหตุ’  นี้

          อีกประเด็นที่ถูกสอบสวนก็คือคำกล่าวหาว่าผู้บริหารสายการบินได้กำชับให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องให้การเท็จในเรื่องพฤติกรรมของเธอบนเครื่องบิน       พูดสรุปง่าย ๆ ว่าโดนหนักมาก     และอัยการเกาหลีนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเอาจริงและดุขนาดเอาอดีตประธานาธิบดีถึงสองคนเข้าคุกข้อหาทุจริตมาแล้ว

          การกระทำของ Heather Cho ไปเปิดประเด็นการครอบงำของกลุ่ม Chaebol ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง      มีข้อความทางอินเตอร์เน็ตจำนวนมากที่ไม่พอใจอิทธิพลของกลุ่ม     และมีคำถามว่าเหตุใดกลุ่มธุรกิจหนึ่งจึงสามารถใช้ชื่อประเทศเป็นสายการบินได้ (มีคำแนะนำว่าควรใช้ Hanjin Air) อีกทั้งเป็นสายการบินแห่งชาติอีกด้วย      ถ้าเรื่องนี้มีการสานต่อไปไกลก็อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนชื่อสายการบินและไม่ให้เป็นสายการบินแห่งชาติอีกต่อไปก็เป็นได้

          มีคำถามว่า Heather Cho เป็นรองประธานกรรมการที่รับผิดชอบการให้บริการบนเครื่อง     เมื่อเห็นการให้บริการแบบยื่นถุงให้บนเฟิร์สคลาสก็ย่อมที่จะตำหนิได้     แต่ที่เธอกระทำนั้นรุนแรงเกินการเป็นมนุษย์ไป    และเธอเป็นเพียงผู้โดยสารคนหนึ่งและมิได้อยู่ในช่วงปฏิบัติภารกิจด้วย

          ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต      ไม่มีคลิป (เหตุการณ์พระตบหน้าฝรั่งบนรถไฟ        นักท่องเที่ยวจีนสาดน้ำร้อนและด่าทอพนักงานอย่างรุนแรงบนสายการบินประหยัดของไทย      “เหนียวไก่ย่าง”     ขับรถปาดหน้ากัน      ฯลฯ     คงไม่มีใครรู้ถ้าไม่มีกล้องที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้โดยง่าย)       ไม่มี social media     ฯลฯ    มนุษย์คงไม่ ‘เปล่าเปลือย’ (vulnerable) อย่างที่เป็นกันอยู่ในปัจจุบันเป็นแน่

          การต้องมีสติ     การควบคุมอารมณ์     การระมัดระวังคำพูด และการกระทำของตนเองอยู่ตลอดเวลา      เป็นบทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่อาจนำไปสู่เรื่องต่าง ๆ ได้มากมาย     ล่าสุดถั่ว macadamia ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในเกาหลีเพราะคนเกาหลีรู้จักกันจริงจังก็จากเหตุการณ์นี้

คนใหญ่คนโตในปัจจุบันมีความเสี่ยงในการสูญเสียอำนาจอย่างรวดเร็วมากกว่ายุคใดที่ผ่านมา     ทั้งนี้เพราะโลกไซเบอร์เป็นดาบที่คมกว่าอาวุธใด ๆ ทั้งสิ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *