วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
7 มกราคม 2556
ไม่น่าเชื่อว่าในยุคนี้ยังมีการกวาดล้างจับคนสำคัญของประเทศไปประหารดังที่ประเทศคอมมิวนิสต์ชอบทำกันเมื่อ 50-60 ปีก่อน เมื่อกลางธันวาคมปี 2556 ผู้นำหมายเลขสองของเกาหลีเหนือถูกจับขณะกำลังประชุมใหญ่ในห้องที่มีการถ่ายทอดสด และอีกไม่กี่วันต่อมาก็ถูกตัดสินประหารชีวิตซึ่งคนถูกแจ็คพ็อตนี้ก็คืออาเขยของท่านผู้นำ
ขอเล่าความเป็นมาเล็กน้อยของผู้นำเกาหลีเหนือ นาย Kim Jong-un ซึ่งผู้เขียนเคยเขียนถึงก่อนหน้าเพื่อปูพื้นสู่เรื่องการฆ่าฟันกันครั้งนี้
เขาเป็นลูกคนเล็กสุดในจำนวนสาม 4 คน โดยกำเนิดจากภรรยาคนที่ 3 ซึ่งอดีตเป็นนักเต้นระบำแสนสวยชื่อ Ko Yong-hee แม่นี้มีลูกชายอีกคนหนึ่งเป็นพี่ชายชื่อ Kim Jong Chul ซึ่งพ่อเห็นว่าอ่อนแอ กระเดียดไปทางผู้หญิงจึงไม่อยู่ในสายตา
Kim Jong Il ผู้พ่อเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์สมบูรณ์แบบ ครองอำนาจมา 18 ปี ก่อนที่จะตายไปในวัย 69 ปี เขาเป็นลูกชายของ Kim Il Sung เผด็จการคนแรกของแผ่นดินเกาหลีเหนือ หลังจากสงครามเกาหลีในต้นทศวรรษ 1950 ภรรยาหลวงของ Kim Jong- Il ที่พ่อเลือกให้คือ Kim Yong Sook ลูกสาวนายทหารใหญ่ ภรรยาคนนี้ให้กำเนิดลูกสาวเพียงคนเดียวคือ Kim Sul Song
ภรรยาของเขาอีกคนหนึ่งมีความเป็นมาของการได้เป็นเจ้าสาวที่น่าตื่นเต้นกว่าเพื่อนเพราะ Kim Jong- Il ไปอุ้มแย่งมาจากสามีเอาดื้อ ๆ เธอเป็นดาราภาพยนตร์สาวสวยของเกาหลีเหนือชื่อ Sung Hae Rim เธอให้ลูกชายคนโตสุดแก่เขาชื่อ Kim Jong-Nam ครั้งหนึ่งลูกคนนี้เป็นคนโปรดของพ่อโดยตั้งใจให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ แต่ผู้ลูกไปพลาดท่าถูกจับในญี่ปุ่นในข้อหาใช้พาสปอร์ตปลอมจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เขาสารภาพว่าทำไปเพราะอยากไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่นั่น ผู้พ่อโกรธมาก เขาจึงตกกระป๋องไป ปัจจุบันหลบไปอยู่ในจีน (หลังการประหารมีข่าวว่าหลานตระกูล Kim คนหนึ่งหลบซ่อนตัวเพื่อหนีภัยในปารีส เด็กคนนี้ก็คือลูกชายของเขา)
ก่อน Kim Jong Il ตาย อาหญิงของเขาซึ่งเป็นน้องสาวของพ่อและเป็นลูกสาวของ Kim Il Sung บิดาของประเทศได้เป็นนายพลสี่ดาวโดยตั้งใจให้ช่วยดูแลการสืบทอดอำนาจของหลาน เธอผู้นี้ชื่อว่า Kim Kyong Hui เป็นหญิงเหล็ก อารมณ์ร้าย เคยมีปัญหาเรื่องติดเหล้า
Kim Jong Il รักและไว้ใจน้องสาวคนนี้ว่าจะเป็นผู้ช่วยประคับประคองอำนาจของตระกูล Kim ไว้ได้ในชั่วคนที่สามและตลอดไปถึงที่สี่ เธอมีสามีเป็นสตรองแมนซึ่งมีความสามารถชื่อ Chang Song Taek พี่ชายหวังว่าทั้งสองจะช่วยกันค้ำจุนบัลลังก์ของหลาน และตัวละครเอกที่ถูกประหารก็คืออาเขยคนนี้
ตั้งแต่นาย Kim Jong-un ครองอำนาจสืบทอดบัลลังก์ตระกูล Kim ชาวโลกก็สนใจมากเพราะเกาหลีเหนือยังคงทดลองระเบิดปรมาณู ยิงจรวดข้ามหัวญี่ปุ่น จนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในบริเวณนั้นคือญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ และจีนปั่นป่วนไปหมด
โลกเห็นอาเขยและอาหญิงช่วยกันดูแลหลาน Kim จนเชื่อว่าคงลงหลักปักฐานกุมอำนาจเป็นผู้นำในวัยหนุ่มอ่อนได้ดีพอควร เข้าใจว่าดูแลกันดีจนอาเขยได้ขึ้นมาเป็นผู้นำหมายเลขสองขยายอำนาจมากขึ้นเป็นลำดับ เหตุการณ์ผิดสังเกตได้เกิดขึ้นเมื่อคนสนิทสองคนของอาเขยถูกจับเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2556 และถูกประหารชีวิต ถัดมาไม่กี่วันอาเขยก็โดนจับอย่างชนิดไม่ไว้หน้ากัน และอีก 10 วันต่อมาก็ถูกประหารชีวิต
คำตัดสินของศาลไม่ยาวมาก แต่บรรยายความผิดได้ละเอียดอย่างน่าอัศจรรย์ว่า “เลวกว่าหมา” เริ่มตั้งแต่เป็นกบฏ ตั้งกลุ่มพรรคพวกจะโค่นอำนาจ คอรัปชั่น มีกิ๊ก เล่นการพนัน แจกรูปโป๊ให้พรรคพวก ไม่ตบมือชื่นชมผู้นำอย่างเต็มที่ ตั้งรูปปั้นผู้นำไว้ในที่ไม่เด่น ฯลฯ
ผู้คนแปลกใจว่าขนาดเป็นลูกเขยปู่ผู้ยิ่งใหญ่ยังถูกเล่นขนาดถึงตายเชียวหรือ ปู่และพ่อเคย “กวาดล้าง (purge)” แบบนี้ในทศวรรษ 1950 และ 1960 แต่ก็ไม่เคยเล่นคนในครอบครัวกันถึงขนาดนี้ คำถามก็คือเหตุใดท่านผู้นำหนุ่มจึงแหกคอก
ผู้คนเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงสาเหตุอันได้แก่ (1) มีการจะแย่งชิงอำนาจจากอาจริงเพราะโดดเด่นมีอำนาจและพรรคพวก (2) ไม่พอใจการโอนอ่อนกับจีนซึ่งอาเขยเป็นคนผลักดันแนวคิดประสานเศรษฐกิจกับจีน (3) ฝ่ายเหยี่ยวต้องการหยุดแนวคิดเศรษฐกิจเสรีที่อาเขยดูจะมีแนวคิด เอนเอียง (4) ไม่พอใจส่วนตัวที่อาเขยยังมีใจเอ็นดูและเกื้อกูลพี่ชายต่างมารดานาย Kim Jong Num ซึ่งครั้งหนึ่งพ่อเคยเลือกเป็นทายาท
อีกสาเหตุที่เชื่อกันก็คือ Kim Jong Il ได้แอบเปิดบัญชีลับในต่างประเทศไว้หลายบัญชี สะสมเงินไว้ถึง 4 พันล้านเหรียญ โดยให้สองอาเป็นผู้ดูแล แต่ปรากฏว่าปัจจุบันมีเงินเหลืออยู่ไม่มาก จึงเชื่อว่าถูกอาโกงแน่
อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์เชื่อว่าสาเหตุสำคัญมาจากการครองอำนาจไม่ราบรื่นนัก มีคนคิดท้าทายอำนาจเพราะตัวเองขึ้นมาเร็วมากและมีอาเขยหายใจรดต้นคออยู่ หากกำจัดให้พ้นไปได้ก็เท่ากับแสดงให้ “ผู้ใหญ่” ที่ทุ่มเทให้พรรคและประเทศมายาวนานเห็นว่าตนเองเข้มแข็งดูแลตนเองได้ ดังนั้นความโหดชนิด “การเชือดไก่ให้ลิงดู” จึงเกิดขึ้น
ชีวิตของสองอานั้นน่าสงสาร เชื่อว่าแยกทางกันนานแล้ว ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนและได้ฆ่าตัวตายในปี 2006 เนื่องจากพ่อแม่ไม่ยอมให้แต่งงานกับคนต่างชาติ และไม่ยอมกลับเกาหลีเหนือ เงินทองที่อาจมีมากมายก็แทบไม่ได้ใช้ ต้องอยู่ในสังคมเกาหลีเหนือด้วยความหวาดระแวงเพราะรู้ดีว่าอำนาจนั้นเหมือนไฟ มันเผาผลาญได้ทั้งคนอื่นและตนเอง
ปัจจุบันอาหญิงยังมีชีวิตรอดอยู่ แต่เชื่อกันว่าคงมีอีกหลายสิบหรืออาจหลายร้อยชีวิตที่เกี่ยวพันใกล้ชิดกับ Jang Sung Taek จะสูญหายไปจากการ “กวาดล้าง” ครั้งนี้ ที่เห็นนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สถานะความเป็นผู้นำของ Kim Jong-un จะเข้มแข็งหรืออ่อนแอลงหลังจากการ “กวาดล้าง” เราคงจะได้เห็นกันในเวลาอีกไม่นาน
“ความกลัว” คือเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการสะกดให้คนอยู่ในกรอบเพื่อรักษาอำนาจ ถ้าเมื่อใดประชาชนลดหรือหมดความกลัว ระบอบไหนก็อยู่ไม่ได้ทั้งนั้น