แฮกเกอร์ผู้มีหลักการ

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
29 มกราคม 2556   

Aaron Swartz เป็นอัจฉริยะ IT ได้รับรางวัลสำคัญของประเทศสำหรับการสร้างเว็บไซต์อเมริกันที่มีประโยชน์ด้านการศึกษาตั้งแต่อายุ 13  ปี   เมื่ออายุได้ 14 ปีก็ร่วมงานกับผู้ก่อตั้ง world wide web (www)  และมีความเชื่อมั่นอย่างจริงใจว่าความรู้ที่อยู่ในหนังสือและบทความในห้องสมุดตลอดจนข้อมูลที่เป็นสาธารณะทั้งปวงนั้น   ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างเสรีและฟรี

เมื่อโตเป็นหนุ่มเขาเป็นนักต่อสู้คนสำคัญในการคัดค้านความพยายามปิดกั้นเสรีภาพในโลกอินเตอร์เน็ตของภาครัฐอเมริกัน   เขาสร้าง Reddit เว็บแนว bulletin board ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดเว็บหนึ่งในโลกในปัจจุบัน   และเขาได้สร้างสรรค์งานสำคัญอีกหลายชิ้นที่เป็นประโยชน์ต่อโลก   พร้อมกับตั้งใจทำผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อช่วยให้โลกเป็นไปตามความเชื่อของเขาซึ่งเขามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ

เขาน่าจะช่วยให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ในโลกและปล่อยข้อมูลที่สาธารณชนสมควรได้รับรู้อีกมากมายแต่เขาก็ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป   เพราะเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2013 ที่ผ่านไปนี้   เขาตัดสินใจแขวนคอตายในวัยเพียง 26 ปี

Aaron Swartz เกิดในเมืองชิคาโก   พ่อเป็นเจ้าของบริษัทซอฟแวร์   เขาฉายแววอัจฉริยะด้าน IT ตั้งแต่เด็ก ๆ      โดยเติบโตขึ้นด้วยอุดมการณ์ที่มั่นคงว่าอินเตอร์เน็ตเป็นสมบัติของประชาชน  ทุกสิ่งควรฟรีและเปิดเผยอย่างไม่มีขีดจำกัด

เขาเคยเป็นบรรณาธิการอาสาสมัครของ Wikipedia    เป็นหัวหอกรณรงค์ต่อต้านการร่างกฎหมายชื่อ Stop Online Piracy Act  ซึ่งภาครัฐพยายามใช้อำนาจในการติดตามตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งเขาเชื่อว่าในที่สุดแล้วจะเป็นสะพานไปสู่การแทรกแซงอำนาจของประชาชนในโลกไซเบอร์    Swartz ต่อสู้ร่างกฎหมายนี้อย่างเด็ดเดี่ยวจนชนะในที่สุด
 

“วีรกรรม”  สำคัญที่นำเขาไปสู่การกระทำผิดกฎหมายและการฆ่าตัวตายในที่สุดก็คือในปี 2010 เขาแอบดาวน์โหลดบทความวิชาการจำนวนรวม 4.8 ล้านบทความจากคลังเอกสารวิชาการของ MIT (Massachusetts Institute of Technology) ที่มีชื่อว่า JSTOR และปล่อยออกมาให้นักศึกษาทั้งโลกได้ใช้กันโดยไม่ต้องจ่ายเงินอีกต่อไป    เขากระทำด้วยความเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะความรู้ที่อยู่ในเอกสารส่วนใหญ่นั้นได้มาจากการใช้ภาษีของประชาชน       ดังนั้นเอกสารวิชาการเหล่านี้สมควรให้ทุกคนเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
 

นอกจากนี้เขายังโพสต์แค็ตตาล็อกของข้อมูลที่เก็บรักษาไว้ของ Library of Congress ซึ่งปกติขายในราคาแพงลงบน Open Library ให้ได้ใช้กันอย่างเสรีอีกด้วย    แค่นั้นยังไม่พอเขาปล่อยเอกสารคดีต่าง ๆ ของศาลที่เขาเห็นว่าสาธารณชนควรได้รับรู้อีกจำนวน 19.9 ล้านหน้า
 

ทั้งหมดนี้เขาไม่ได้ทำไปเพื่อเงินเลยแม้แต่น้อย   ทั้งที่ถ้าเขาเป็นหัวขโมยตัวจริงแล้วอาจทำเงินให้เขาได้นับล้านเหรียญ    สิ่งที่เขาต้องการคือโลกที่ดีกว่า   เสรีกว่า  และก้าวหน้ากว่าเดิม  ในที่สุด “วีรกรรม” ที่เขาทำไว้ก็เป็นผลร้ายต่อตัวเขา   Swartz ถูกจับและอัยการระบุว่าอาจติดคุกนานถึง 35 ปีได้   โอกาสติดคุกนานขนาดนั้นเริ่มมีผลต่อชีวิตของเขา  บ่อยครั้งที่เขาซึมเศร้า   นอนอยู่ในความมืดคนเดียวเงียบ ๆ  และป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่ยังไม่ถึงวัย 25 ปี 
 

หลังจากที่มีผู้พบเขาเสียชีวิตแล้ว   มีข่าวรอดออกมาว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วันอัยการได้ เสนอข้อต่อรองกับเขา (plea bargaining)  ให้ยอมสารภาพผิดเสียและยอมติดคุก 6 เดือนแทนที่จะไปสู้คดี  ในศาลซึ่งอาจติดคุกนานกว่านั้นมาก      เขาเกือบตกลงแต่ในที่สุดก็ไม่เกิดขึ้นเพราะเจ้าทุกข์คนหนึ่งคือ MIT ไม่เห็นชอบด้วย
 

ประเด็นที่พึงพิจารณาก็คือถึงแม้เขาดูจะมีความผิดแน่นอน   ไม่ว่าจะมีเจตนาดีอย่างไรก็ตาม   แต่มันเป็นความผิดที่สมกับโทษ 35 ปีหรือไม่
 

Aaron Swartz เรียน Stanford อยู่เพียงปีเดียวก็เลิกเรียน    ออกมาอ่านหนังสือปรัชญาเป็นหลัก  และเรียนรู้ด้วยตนเองนอกห้องเรียนจนสามารถทิ้งผลงานสำคัญไว้ให้โลก     บทเรียนหนึ่งที่เขาทิ้งให้สมาชิกร่วมโลกขบคิดก็คือเรื่องความยุติธรรม    ความผิดที่เขาก่อนั้นทำให้เกิดประโยชน์แก่โลกและก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงิน     โดยสิ่งที่ถูกดาวน์โหลดไปก็ยังอยู่ครบถ้วน     การลงโทษที่เสมือนขโมยของธรรมดานั้นสอดคล้องกับความผิด “สมัยใหม่” เยี่ยงนี้หรือไม่     
 

ชีวิตมีทั้งความยาวและความลึก   ในหลายกรณีความยาวของชีวิตอาจไม่สำคัญเท่ากับความลึกกระมัง