โจรจะชุกชุมหลัง ASEAN 2015

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
29
เมษายน 2557

Photo by Maxim Hopman on Unsplash

          ปี 2015 แห่งการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใกล้เข้ามาทุกที สิ่งที่มักพูดกันในบ้านเราก็คือไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากเศรษฐกิจการค้า โดยมองข้ามผลเสียสำคัญด้านหนึ่งที่มีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยโดยตรง นั่นก็คือความชุกชุมขึ้นของอาชญากรรม จนอาจนำไปสู่ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในชาติ

          ในขณะนี้ถึงแม้จะไม่เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Community) โดยสมบูรณ์ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นไปมากแล้วในระดับหนึ่ง ไม่เชื่อมองคนทำงานบ้านของท่าน คนขายของในตลาด แรงงานภาคบริการ คนขายก๋วยเตี๋ยว แรงงานก่อสร้าง แรงงานประมงและ กรีดยาง ฯลฯ ล้วนเป็นคนจากประเทศอาเซียนเพื่อนบ้านเราทั้งสิ้น ตัวเลขแรงงานเหล่านี้ 6-7 ล้านคน น่าจะไม่ห่างไกลความจริง

          ในด้านการเดินทางในกลุ่ม AC ปัจจุบันคนอาเซียนสามารถเดินทางถึงกันทุกประเทศ (ยกเว้นเมียนมาร์) ได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า เพียงหนังสือเดินทางเล่มเดียวก็ทำให้คล่องตัว สามารถเข้าออกประเทศกันและกันได้อย่างสะดวก

          ตรงจุดนี้แหละที่จะทำให้มีโจรชุกชุมในบ้านเรา ในจำนวนประชากรอาเซียนเกือบ 600 ล้านคน ย่อมต้องมีคนคดในข้อชอบหากินผิดกฎหมายอยู่ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องปกติ ถามว่าถ้าคนอาเซียนเหล่านี้คิดจะไปเป็นโจรล้วงกระเป๋า ตัดช่องย่องเบา ปล้นจี้ ประกอบมิจฉาชีพต่าง ๆ จะเลือกเดินทางไปไหน คำตอบก็คือประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ

          ถ้าผมเป็นโจรผมไม่ไปสิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน ที่มีการควบคุมดูแลคน ต่างด้าวรัดกุมเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานและดูแลกำกับการทำมาหากินคนต่างด้าวต่างถิ่นในบ้านเขาอย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศอินโดนีเซียที่มีประชากร 230 ล้านคน ฟิลิปปินส์ 100 ล้านคน ผมก็อาจไม่ไปเพราะคนฐานะดีมาก ๆ มีจำนวนไม่มาก ช่องทางอาจมีอยู่มากแต่โอกาสไม่อำนวยเท่า ที่อื่น ถ้าเป็นเวียดนาม พม่า ลาว และเขมร ก็ยังอยู่ในขั้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ทำให้ทักษะโจรของผมทำงานได้ไม่เต็มที่

          กรุงเทพฯ ซิครับคือเมืองสวรรค์แห่งการโจรกรรมและประกอบมิจฉาชีพ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ (1) มีศูนย์การค้าหรู ๆ และบ้านจำนวนมาก ตลอดจนคนมีเฟอร์นิเจอร์บนตัวเดินกันเพ่นพ่าน สายสร้อยห้อยพระเหลืองอร่าม พูดง่าย ๆ ก็คือมีโอกาสมาก (2) ใครจะเข้าเมืองผิดกฎหมายมาอยู่ใกล้บ้าน คนไทยก็ไม่สนใจเพราะโทรไปบอกใครก็ไม่มีใครตอบสนอง ต่างคนต่างสนใจและระมัดระวังแต่เรื่องของตัวเอง ไม่อยากยุ่งให้มีเรื่องปวดหัว ความเป็นสังคมเปิด สังคมตัวใครตัวมันและความเป็นสังคมใจกว้างทำให้การร่วมมือจากประชาชนอ่อนแอ

          ประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดชอบรักษากฎหมายโดยเฉพาะตำรวจมีประสิทธิภาพในการปราบปรามต่ำ (หากไม่ต้องการจับและไม่เห็นประโยชน์ในการปราบปราม) การไม่รับผิดชอบจริงจังยอมให้มีมาเฟียต่างชาติในพัทยา ภูเก็ต สมุย คือตัวชี้ให้เห็นทางโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังปี 2015

          ถ้าการละเลยไม่ปราบปรามแล้วได้ผลประโยชน์มากกว่าการปราบปรามจะไปทำมันทำไมทั้งเหนื่อย ทั้งเสี่ยง และก็ไม่ได้ผลตอบแทน ถ้าความคิดเช่นนี้กลายเป็น norm ไปทั้งหมดเพราะไม่มีอุดมการณ์เป็นตัวคาน โจรจะชุกชุมยิ่งกว่ายุงเพราะบรรดาโจรจากสารทิศจะแห่กันมาประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร

          นี่คือข้อเสียที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดและมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทันที บางคนอาจสงสัยว่าก็การไม่มีวีซ่าก็เกิดขึ้นนานพอควรแล้ว ยังไม่เห็นมีโจรชุกชุมดังที่กล่าวเลย

          คำตอบก็คือมันมีความชุกชุมอยู่พอควรแล้วแต่ไม่เป็นข่าว โดยเฉพาะการล้วงกระเป๋าลักเล็กขโมยน้อย แต่การที่กรุงเทพมหานครเป็นสวรรค์ของโจรอาเซียนยังไม่เป็นที่ประจักษ์กว้างขวาง แต่เมื่อถึงปี 2015 ซึ่งการเป็น AC อย่างเป็นทางการเกิดขึ้น อีกทั้งรู้ว่าสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โจรต่างแดนในบ้านเราก็จะมีมากขึ้นเพราะเห็นช่องทางมากขึ้นทุกขณะ และเมื่อนั้นแหละสวรรค์ของเขาก็จะกลายเป็นนรกของเรา

          ในตอนแรกก็คงเป็นแค่ระดับอนุบาลคือล้วงกระเป๋า ต่อไปก็จะฉกชิงวิ่งราว ลักเล็กขโมยน้อย จี้ปล้น ตัดช่องย่องเบา และจะหนักมือขึ้นเป็นลำดับ ทั้งหมดนี้จะเป็นความจริงหากเจ้าหน้าที่ของรัฐเราหย่อนยานในประสิทธิภาพ ภาครัฐไม่มีการเตรียมพร้อมจริงจัง และมองไม่เห็นภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น

          บางคนอาจบอกว่าการไม่มีวีซ่าหมายถึงการไม่ต้องไปขออนุญาตเข้าประเทศเท่านั้น ส่วนจะอนุญาตให้เข้าประเทศหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การกล่าวเช่นนี้ถูกต้องแต่ในความเป็นจริงนั้นเกือบทุกรายก็สามารถเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเข้าประเทศได้โดยไม่มีการห้ามปรามทั้งสิ้น ดังนั้นการไม่มีวีซ่านั้น จริง ๆ แล้วก็คือการเข้าประเทศได้อย่างเกือบเสรีนั่นเอง

          การเป็น AC นั้นเป็นเรื่องดีเพราะจะเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ไทยและเพื่อนบ้าน AC แต่ผลเสียเรื่องอาชญากรรมชุกชุมขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่พอมองเห็นกันได้หากตาไม่มืดบอดกันเพราะมีผลประโยชน์เป็นน้ำกรดจนยอมให้คนต่างชาติเข้ามาทำใหญ่โตในบ้านเรา

          ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เตรียมตัวรับมือโจรที่จะชุกชุมขึ้นอย่างจริงจังแล้ว “ราคา” ที่เราต้องจ่ายสำหรับการอยู่ดีกินดีจากการมี AC ก็จะแพงมาก ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *