หมู่บ้าน “คาวบอย” ในเมืองจีน

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
19 มกราคม 2559

          ถ้าใครหลุดเข้าไปในบริเวณนี้อาจเผลอนึกว่าถูกเครื่องหมุนเวลาผันกลับไปสู่ยุคคาวบอย หรือ American Frontier เพราะหน้าตาบ้านเรือน ถนนหนทาง การแต่งกายของผู้คนบางส่วน ช่างเหมือนที่เคยเห็นในหนังคาวบอย เพียงแต่หน้าตาคนเหล่านั้นเป็นคนเอเชียล้วน ขับรถ Audi / Land Rover แทนขี่ม้า และสถานที่ตั้งนั้นอยู่ในประเทศจีน

          นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนหัวใสด้านการตลาด รู้ว่าเศรษฐีจีนต้องการบ้านหลังใหญ่ อยู่ห่างไกลสภาพอากาศเป็นพิษ มีความแปลกใหม่ชนิดที่เอาไปคุยได้ ประการสำคัญเลียนแบบที่เห็นในภาพยนตร์อีกทั้งได้รับ “ค่านิยมอเมริกัน” แบบเก๋ ๆ อีกด้วย จึงเกิดชุมชนคาวบอยขึ้น

          “บ้านจัดสรร” หรือรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ชานกรุงปักกิ่ง มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Jackson Hole” สร้างมากว่า 10 ปีแล้ว มีบ้านทั้งหมด 1,500 หลัง เจ้าของอ้างว่าขายไปแล้วกว่าร้อยละ 90 ราคาต่ำสุด 625,000 เหรียญสหรัฐ (22,530,250 บาท) แต่ถ้าใหญ่มากเจ้าของธุรกิจเรียกว่าคฤหาสน์ ก็ตก 8 ล้านเหรียญ (288,387,200 บาท)

          โครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ใหญ่โตมโหฬาร ขายความเป็นอเมริกัน ตั้งแต่เรียกชื่อว่า “Hometown America” (ชื่อจริงคือ “Jackson Hole” แต่คนจีนไม่ชอบเรียกชื่อนี้) มีชื่อถนน เช่น Aspen / Moose / Route 66 ฯลฯ และมีโบสถ์สไตล์ American Frontier ให้ประกอบพิธีด้วย

          แต่ละบ้านมีรั้วเตี้ย ๆ กั้นแบ่งบริเวณ หลายหลังมีสระว่ายน้ำ ต้นคริสต์มาสที่คงทน ตัวบ้านเป็นท่อนซุงซึ่งใหญ่โตมีหลายห้องนอน มีร้านขายอาหารอเมริกันภายในหมู่บ้าน ผู้คนก็แต่งตัวกันสบาย ๆ สไตล์คนอเมริกัน (ก็จะเป็นอเมริกันทั้งทีก็ต้องเป็นให้หมดสิ) อย่างไรก็ดีนับตั้งแต่ Xi Jinping เป็นประธานาธิบดีเมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และชาวหมู่บ้านนี้ก็ดูจะอยู่ไม่เป็นสุขนัก

          American Frontier หมายถึงชายขอบของดินแดนที่ถูกบุกรุกเข้าไปด้านในของแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันโดยคนผิวขาว ยุคของคาวบอยก็คือยุคระหว่าง ค.ศ. 1607-1920 ส่วนช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดคือระหว่าง ค.ศ. 1783-1920

          คนยุโรปหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ หลีกหนีการถูกกีดกันใน หลายเรื่อง จับจองตั้งรกรากกันเป็นแหล่งอยู่ทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นดินแดนของพวกอพยพจากเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย สวีเดน ฯลฯ

          วัฒนธรรมคาวบอยเป็นผลพวงจากการหล่อหลวมของวัฒนธรรมยุโรป ความคิดในเรื่องเสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน ความยุติธรรม โอกาส จึงเป็นเรื่องสำคัญของคนเหล่านี้และถ่ายทอดมาถึงลูกหลานในปัจจุบัน

          เศรษฐีจีนเหล่านี้เป็นพวก (very) New Rich โดยเคยอยู่ภายใต้ระบบคอมมูนิสต์มากว่า 30 ปี แต่เมื่อหันมาใช้ระบบตลาดเสรีก็ย่อมมีคนรวยขึ้นมาทันที ตลาดจีนใหญ่มาก (ประมาณ 1,400 ล้านคน) และเมื่อการค้าโลกมันโยงใยถึงกันหมด ตลาดสินค้าจีนจริง ๆ จึงใหญ่กว่านั้นมาก ๆ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจะไม่มีคนรวยพอซื้อบ้านแบบนี้ได้อย่างไร

          ที่จริงก็มีหมู่บ้านสไตล์ยุโรปต่าง ๆ เช่นกัน แต่ไม่ดังเท่า “Jackson Hole“ นี้ที่บังเอิญเป็นอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในยุคชาตินิยมของจีน และยุคจีน-อเมริกาขัดแย้งกันหนัก มันก็เลยกลายเป็นเรื่องขึ้นมา

          ประธานาธิบดี Xi Jinping ผู้นำพรรคคอมมูวนิสต์จีน สนับสนุน “Chinese Dream” หรือการสร้างชาตินิยมโดยการกลับคืนสู่วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิม ตลอดจนสร้างกองทัพจีนให้เข้มแข็ง

          ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา พรรคคอมมูวนิสต์พยายาม “ขับไล่ผี” ตะวันตกบางตัว เช่น ความคิดในเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ ฯลฯ โดยมองว่าเป็นสิ่งคุกคามประเทศ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีการเอ่ยชื่อเจ้าตำรับของ “ผี” เหล่านี้แต่ก็รู้กันดีว่าคือสหรัฐอเมริกา

          อย่างไรก็ดีการรณรงค์ “ขับไล่ผี” ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่สามารถทำให้ความนิยมความคิดตะวันตกตลอดจนสินค้าต่างประเทศลดลงหรือไปเที่ยวต่างประเทศกันลดลง การศึกษาในมหาวิทยาลัยอเมริกาคือความฝันสูงสุดของเยาวชนจีนจำนวนมาก

          เมื่อเกิดการ “ขับไล่ผี” เช่นนี้ขึ้น เจ้าของบ้านใน “Jackson Hole” ก็ร้อนตัวเพราะดูเหมือนว่าจะไม่รักชาติ พวกเขาชี้แจงว่าเขาเพียงอยู่บ้านสไตล์อเมริกันในประเทศจีนเท่านั้น ไม่ต่างอะไรไปจากคนจีนทั้งหลายที่ชอบดูหนังฮอลลีวู๊ด

          นอกจากนี้เจ้าของบ้านก็บอกว่าการอยู่หมู่บ้านเช่นนี้ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากชีวิตเงียบสงบ อากาศดีแล้ว ยังได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนบ้าน ไปมาหาสู่กัน มันอาจไม่เหมือนอเมริกันแท้ แต่มันก็แตกต่างกว่าที่อื่นในเมืองจีน

          เจ้าของธุรกิจกำลังปลูกอพาร์ทเม้นท์ขนาดกลาง 200 หน่วย ที่ราคาไม่สูงเทียมเมฆ สร้างโรงเรียนและทาวน์เฮ้าส์อีก 2,000 หน่วย เพื่อให้คล้ายบรรยากาศของตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียที่ปลูกไวน์กันมาก (เจ้าของบ้านเหล่านี้นิยมดื่มไวน์กันเป็นพิเศษ) ปัญหาที่ปวดหัวของเจ้าของธุรกิจก็คือ เสียงเรียกร้องให้ปลูกบ้านแนวเหนือ-ใต้ เพื่อให้สอดคล้องกับฮวงจุ้ย (วัฒนธรรมคาวบอยบวกฮวงจุ้ย) และบ้านหลายหลังเริ่มสร้างกำแพงกั้นระหว่างบ้านตามความเคยชินของสังคมจีน

          จากเดิมที่เคยเป็นบ้านพักระหว่างเสาร์อาทิตย์ก็กลายเป็นบ้านอยู่อาศัยถาวรมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรถไฟความเร็วสูงกระจายไปทั่วประเทศจีน การเดินทางไกล ๆ ก็กินเวลาน้อยลงมาก จนสามารถไปทำงานแบบเช้าเย็นกลับได้

          การเมืองสามารถเข้าไปแทรกแซงสไตล์ของการใช้ชีวิตในด้านอยู่อาศัยได้ในประเทศนี้ ในโลกปัจจุบันที่ทุกเรื่องดูจะโยงใยถึงกันอย่างซับซ้อนและลึกซึ้ง ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องน่า แปลกใจ