โจรกรรมใหญ่สุดของอังกฤษ

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
12 มกราคม 2559

          ชายสูงอายุ 4 คนอายุรวมกันร่วม 3 ศตวรรษ กินเหล้าในผับใกล้ลอนดอนด้วยกันทุกศุกร์เป็นเวลา 3 ปี กว่าที่จะลงตัวในการวางแผนขโมยสิ่งของในตู้นิรภัยที่ผู้ใช้บริการเชื่อว่าปลอดภัยที่สุดจนกลายเป็นการขโมยครั้งยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ในที่สุดก็ถูกจับติดคุกจนได้เพราะละเมิดกฎพื้นฐานข้อที่หนึ่งของโจร

          หลังจากที่แต่ละคนมีดีกรีติดคุกในข้อหาลักทรัพย์ เจาะช่องย่องเบา (แต่ขโมยหนัก) ฟุ้งและฝันกันจนถึงขั้นวางแผนอย่างละเอียดละออสำเร็จแล้ว ในคืนวันที่ 2 เมษายน 2015 ช่วงวันหยุดอีสเตอร์ของอังกฤษ Reader ผู้เป็นมันสมองและหัวหน้าวัย 76 ปี ก็เดินทางไปยังย่าน Hatton Garden ในลอนดอน ซึ่งเป็นบริเวณค้าขายเพชรนิลจินดามานับร้อย ๆ ปี

          เป้าหมายของ Reader คือตึกสูง 7 ชั้น ซึ่งบริษัทรับจ้างเก็บของด้วยตู้นิรภัยชั้นยอดชื่อ Garden Safe Deposit ตั้งอยู่ และที่นั่นเพื่อนอีก 3 คน ในวัย 75, 67, และ 60 รออยู่ ในชุด ช่างซ่อม ส่วนตัวหัวหน้าในชุดช่างดูแลท่อแก๊ส โดยมีผู้ร่วมงานชี้เบาะแส เปิดประตู ดูทางหนี ทีไล่ให้อีกไม่ต่ำกว่า 4 คน

          ตู้นิรภัยที่เหล่าบรรดาโจร ส.ว. ต้องการเจาะเข้าไปขโมยทอง เพชรนิลจินดาช่วงหยุดยาวนี้มีคอนกรีตคุณภาพชั้นเลิศในความแข็งแกร่งหนาเกือบครึ่งเมตร มีประตูเหล็ก 2 ชั้น รวมไปถึงระบบกันขโมยอิเล็กทรอนิกส์นำสมัยร่วมกันคุ้มครองของมีค่าที่เจ้าของตู้ต้องการเก็บไว้ในสถานที่ ๆ เชื่อว่ามั่นคงและปลอดภัยที่สุด

          เมื่อทั้งทีมพบกันก็แยกย้ายกันทำงานโดยเริ่มต้นจากการผ่านเข้าไปในตึกทางประตูหนีไฟที่มีคนช่วยเปิดให้ ต่างช่วยกันขนเครื่องมือขุดเจาะ กระเป๋า ถุง อุปกรณ์ ที่จะขนของมีค่าออกมา

          ประสบการณ์อันยาวนานจากการเจาะช่องย่องเบาและจากการเรียนรู้วิชาโจรในคุกรวมทั้งวิธีการเจาะคอนกรีตที่ศึกษาจาก You Tube ในอินเตอร์เน็ตทำให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เริ่มด้วยการตัดสายไฟไม่ให้ลิฟต์ทำงานพร้อมกับวางป้ายว่าลิฟต์เสีย ทำให้ลิฟต์ไปอยู่ที่ชั้นใต้ดินและชั้นที่เป็นเป้าหมาย ตัดสายสัญญาณเตือนภัย จากนั้นก็ปีนขึ้นไปในช่องลิฟต์ เจาะคอนกรีตหนาเกือบ 50 เซ็นติเมตรได้สำเร็จแต่ก็ประสบอุปสรรคสำคัญ

          ถึงแม้จะเจาะเข้าไปได้แต่ตู้เก็บของมีค่าในเซฟใหญ่เชื่อมต่อเกือบเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นและเพดานเตี้ย ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามเท่าใดที่จะเข้าไปถึงตู้ก็ไม่สำเร็จ ทั้งหมดใช้เวลาไป 6-7 ชั่วโมง จนในที่สุดก็กลับออกมามือเปล่าตอนแปดโมงเช้า

          เจ้าหน้าที่ของบริษัทและตำรวจตรวจพบความผิดปกติของสัญญาณในตอนที่กำลังเจาะกัน แต่ก็ไม่สงสัยเพราะคิดว่าเป็นสัญญาณปลอมเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยดังเพราะแมลงเข้าไป ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไปตรวจด้านใน

          เหล่าโจร ส.ว. หลังจากไปกินเหล้าปลุกใจกันแล้ว อีก 2 วันต่อมาก็กลับเข้าไปสานงานเก่าต่อเพราะยังเป็นช่วงหยุดอีสเตอร์อยู่ (อีสเตอร์ในแต่ละประเทศไม่ตรงวันกัน) คราวนี้มีอุปกรณ์ใหม่ที่ทรงพลังกว่าเข้าไปช่วย และแล้วก็ทำได้สำเร็จ 73 ช่องตู้เก็บของในห้องเซฟใหญ่ถูกกวาดไปเกลี้ยงซึ่งมีทั้งนาฬิการาคาแพง ทองคำแท่ง เครื่องประดับ เพชรนิลจินดี ทั้งหมดขนไปแทบไม่ไหวเพราะมีจำนวนมาก รวมกันมีมูลค่าประมาณกว่าหนึ่งพันล้านบาท (30 ล้านเหรียญสหรัฐ) การเข้าไปขโมยว่ายากแล้ว แต่การจัดการกับมันหลังจากได้มาแล้วโดยไม่ให้ถูกจับยากกว่ามากเพราะมีจำนวนมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากขึ้น และแต่ละคนก็มิใช่พลเมืองประเภทนั่งพับเพียบพนมมือ

          เมื่อเหล้าเข้าปากก็คุยโม้อวดเก่งทับถมกัน จนรู้ไปถึงคนที่อยู่วงนอกและนี่คือจุดจบของเหล่าจอมโจรคุณปู่เพราะละเมิดกฎโจรข้อแรกคือห้ามพูด

          หนังสือพิมพ์อังกฤษลงรูปภาพกำแพงถูกเจาะและการไร้ประสิทธิภาพของตำรวจและเจ้าหน้าที่ดูแล หลายคนหมดเนื้อหมดตัวเพราะไม่ได้มีประกันเนื่องจากเชื่อว่าได้เก็บไว้ในสถานที่ซึ่งมีค่าเช่าแพงสุด ๆ แล้ว ดังนั้นจึงต้องปลอดภัย

          สี่สหายยังคงพบกันในผับโปรด The Castle ใน Islington ทางเหนือของลอนดอนหลังจากทำงานสำเร็จแล้ว แต่คราวนี้ถกเถียงกันว่าจะแบ่งสรรกันอย่างไรเพราะของมีค่าเหล่านี้ไม่มีมูลค่ามาตรฐานเหมือนได้ทองคำหรือธนบัตรมา ในที่สุดก็ตกลงกันได้แต่ยังไม่ทันจะได้ใช้เงินจากการขโมยมาก็ถูกจับเสียก่อน

          ลอนดอนนั้นเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มีกล้องคุณภาพสูงติดอยู่นับเป็นหมื่น ๆ ทุกแห่งหนเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมของผู้คนที่ผ่านไปมา หลังจากดูวิดีโอจากกล้องที่อยู่รอบบริเวณเกิดเหตุก็พอคาดเดาได้ว่ามีใครเป็นตัวละครบ้าง การมีประวัติอาชญากรรมของเหล่าคุณปู่อยู่แล้วทำให้งานของตำรวจง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ตำรวจก็ส่งสายเข้าไปแทรกซึมใกล้วงคุณปู่ และแอบดักฟังคำพูด ในรถ ทั้งหมดทำให้มีหลักฐานมัดแน่นจนมั่นใจว่าคงได้ตายกันในคุกเป็นแถวแน่

          หลังจากทำงานมา 45 วัน ตำรวจก็บุกเข้าจับพร้อมกันที่บ้าน และพบของที่ขโมยมามากมายฃึ่งเก็บไว้ในบ้านตนเองและลูกสาว จนได้ของคืนมาเป็นจำนวนมาก ที่บ้านของหัวหน้าแก๊ง คือ Reader ตำรวจพบชุดตรวจเพชร พร้อมกับตำราดูเพชร ตลอดจนนาฬิกาและเครื่องประดับมีค่าแอบซ่อนไว้ในเครื่องซักผ้า

          Kenny อายุ 75 ปี ทำวีรกรรมซ่อนทรัพย์ขโมยมาชนิดดังไปทั่วโลก เขาซ่อนไว้ใต้แผ่นหินที่อยู่เหนือหลุมฝังศพของญาติ เขาบอกว่าเขาสารภาพกับตำรวจว่าซ่อนไว้ที่ไหนก็เพื่อกู้ชื่อเสียงที่ทำให้ญาติพี่น้องเสียหายไปด้วยและแสดงให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ถึงแม้จะสายไปหน่อยแต่ก็ยืนยันว่าได้แสดงความจริงใจแล้ว อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็พบสมบัติของ Kenny อีกถุงใหญ่กว่าเดิมที่ซ่อนไว้ในสุสานเดียวกัน

          คาดว่าแก๊งนี้คงติดคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปี และอาจไม่มีโอกาสได้ออกมาแสดงความจริงใจให้ญาติได้เห็น ตำรวจคิดว่ามีผู้ร่วมมือที่ยังลอยนวลอยู่อีกจำนวนหนึ่งนอกจากผู้ร่วมอีก 4 คนที่จับได้แล้ว ทั้งหมดรวมเป็น 8 คน

          เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่าไม่มีที่ใดในโลกที่จะเก็บสมบัติไว้ได้มั่นคงและปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ใดที่ยิ่งมั่นคง มีค่าเช่าตู้สูงก็แสดงว่าที่นั่นต้องมีของมีค่าจำนวนมาก มิฉะนั้นลูกค้าคงไม่ยอมจ่ายค่าเช่าราคาแพงเป็นแน่ โจรที่ฉลาดจึงชอบที่จะมองไปที่สถานที่ซึ่งผู้คนคิดว่าปลอดภัยที่สุดก่อน แต่ตราบใดที่มั่นคงจริง โจรก็เจาะไม่เข้า ดังนั้นมันจึงเปรียบเสมือนเกมส์ระหว่างผู้ดูแลเซฟกับโจรที่อาจมองไม่เห็นในขณะนี้เพราะยังไม่เกิด แต่ในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้ารวดเร็ว เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเทคโนโลยีการโจรกรรมจะแซงหน้าเทคโนโลยีที่ว่าสุดมั่นคงนั้นไปเมื่อใด

          สมบัติทำให้เกิดความกังวลใจและเป็นภาระ แต่ในความเป็นจริงทุกคนก็ต้องมีสิ่งมีค่าทางใจ และทางกายจำนวนหนึ่งที่ต้องดูแลรักษาตลอดที่มีชีวิตอยู่ คำถามก็คือจะมีจำนวนและมูลค่าเพียงใด และจะทำใจได้ดีเพียงใดกับการรู้ความจริงว่าไม่มีที่ใดที่มั่นคงและปลอดภัยอย่างแท้จริง ทุกสถานที่เก็บล้วนมีความมั่นคงในระดับหนึ่งเท่านั้น