ทูตอเมริกันหญิงประจำญี่ปุ่น

วรากรณ์  สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
3 กันยายน 2556

          ญี่ปุ่นมีประเพณีในการตอบรับบุคคลจากสหรัฐอเมริกามาเป็นทูตด้วยมาตรฐานที่สูงมายาวนาน ในครั้งล่าสุดนี้ก็อีกเช่นกัน ญี่ปุ่นเพิ่งตอบรับบุคคลสำคัญซึ่งเป็นทูตสตรีคนแรกด้วยความยินดี Caroline Kennedy คือชื่อของเธอ

          ชื่อนี้มักออกเสียงว่า แค-โร-ลีน แต่ในกรณีนี้อาจแตกต่างออกไป เราได้รับการยืนยันว่าชื่อเธอออกเสียงอย่างไรจากเหตุการณ์ในงานเลี้ยงวันเกิดของเธอตอนอายุ 50 ปี เมื่อ 6 ปีก่อน Neil Diamond นักแต่งเพลงเอกของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าเขาแต่งเพลงโด่งดังชื่อ “Sweet Caroline” (คงจำได้ว่าในเพลงนี้ออกเสียงว่าแค-โร-ไล) เมื่อต้นทศวรรษ 1960 เนื่องจากได้รับแรงจูงใจเมื่อเห็นเธอ ขี่ม้าอย่างน่ารักอยู่ในทำเนียบขาว

          Caroline เป็นลูกสาวคนโตของประธานาธิบดี Kennedy (JFK) ตอนพ่อเธอเป็นประธานาธิบดีนั้นเธออายุเพียง 3 ขวบ และตอนพ่อเธอตายเธออายุ 6 ขวบเท่านั้นเอง

          เธอมีน้องชายคือ John Jr. (จูเนียร์) อายุน้อยกว่าเธอ 3 ปี ที่จริงเธอยังมีน้องชาย คนเล็กสุดอีกคนชื่อ Patrick แต่เกิดได้ 2 วันก็ตายในปีเดียวกับพ่อของเธอ เธอรัก John Junior มาก โดยเฉพาะเมื่อแม่ของเขาสองคนคือ Jacqueline จากไปในปี ค.ศ. 1994 อย่างไรก็ดีในปี 1999 เธอก็สูญเสีย John ไปจากเครื่องบินตก ปัจจุบันเธอเป็นทายาทคนเดียวของ JFK

          เธอเป็นจุดสนใจของคนอเมริกันและชาวโลกมายาวนานว่าชีวิตเธอจะเป็นอย่างไรเมื่อไร้พ่อและแม่ ชีวิตของเธอประสบความสำเร็จ เธอเรียนจบปริญญาตรีด้านศิลปะจาก Radcliff และจบกฎหมายจาก Columbia เธอทำงานการกุศลให้องค์กรไม่หวังกำไรหลายแห่ง เขียนหนังสือและเป็นบรรณาธิการหนังสือหลายเล่ม เธอแต่งงานกับ Edwin Schlossberg นักออกแบบงานแสดงศิลปะเมื่อเธออายุ 29 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน โดยเป็นหญิง 2 และชาย 1 ทั้งสองครองชีวิตคู่มานาน 27 ปี

          มีคนทาบทามเธอให้ลงสมัครประธานาธิบดีหลายครั้งเพราะเชื่อว่าชื่อ JFK นั้นศักดิ์สิทธิ์แตะใจคนอเมริกัน แต่เธอก็ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งใด ๆ ที่ใกล้สุดก็คือเธอแสดงความสนใจตำแหน่งวุฒิสมาชิกของรัฐนิวยอร์กแทน Hilary Clinton ในปี 2008 เมื่อเธอลาออกไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อตำแหน่งว่างลงเช่นนี้ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กจะต้องแต่งตั้ง คนแทนโดยมีอายุเป็นสมาชิกจนถึงเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เมื่อมีเสียงวิจารณ์เธอมากพอควรเธอก็ขอ ถอนตัว

          Caroline มีทั้งคนรักและไม่รัก พวกหลังเห็นว่าเธอเกิดมาเป็นอภิสิทธิชน ไม่ต้องออกแรงก็ได้ทุกสิ่งจากการเป็นลูก JFK เธอถูกจับผิดว่าจะเป็นวุฒิสมาชิกได้อย่างไร ไม่ลงคะแนนเลือกตั้งหลายครั้ง เวลาให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ก็พูดอะไรไม่ชัดเจน แถมพูด “you know” ตั้ง 168 ครั้งในการสัมภาษณ์ทางทีวีในเวลา 30 นาที

          เธอเป็นคนแรก ๆ ที่ออกมาสนับสนุน Obama ตั้งแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แถมเธอช่วยหาเสียงและหาเงินสนับสนุนอีกด้วย เธอชอบพอกับประธานาธิบดี Obama เป็นพิเศษ และเมื่อ John Roos อดีต CEO ของบริษัทใหญ่ใน Silicon Valley ซึ่งเป็นทูตอเมริกาประจำญี่ปุ่นครบเทอม ประธานาธิบดีก็ต้องการให้เธอไปเป็นทูตญี่ปุ่นแทน

          ในประเพณีการแต่งตั้งทูตของอเมริกานั้น มีการแต่งตั้งคนใกล้ชิดหรือผู้สนับสนุนทางการเงินเมื่อครั้งเลือกตั้งไปเป็นทูตในบางประเทศกันเป็นประจำ ในเทอมของประธานาธิบดี Obama ก็ได้มีการแต่งตั้งทูตในลักษณะนี้ไปประจำอิตาลี อาฟริกาใต้ และอังกฤษไปแล้ว (ปู่ของเธอก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตอังกฤษในลักษณะเดียวกัน)

          อย่างไรก็ดีชื่อเธอจะต้องผ่านการอนุมัติของกรรมาธิการต่างประเทศของวุฒิสภา ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะข่าวได้ออกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2013 แล้ว และเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2013 ญี่ปุ่นก็ตอบรับมาอย่างเป็นทางการ

          มีคนวิจารณ์ว่าเธออ่อนหัดในเรื่องการทูต ตำแหน่งนี้มีความสำคัญอย่างมากเพราะญี่ปุ่นกำลังมีปัญหากับจีนในเรื่องความเป็นเจ้าของหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก สหรัฐอเมริกากำลังส่งสัญญาณว่าสหรัฐอเมริกาจะอยู่ข้างญี่ปุ่น ไม่ต้องการให้จีนแสดงอำนาจทางการทหาร และก็ไม่อยากให้ญี่ปุ่นไปแหย่หางเสือด้วยท่าทีก้าวร้าว (จีนกับญี่ปุ่นมีเรื่องกินใจกันในประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นฆ่าคนจีนถึง 300,000 คน ในเวลาเพียง 3 อาทิตย์ในนานกิงในปี 1937)

          สหรัฐอเมริกาต้องการให้ความสัมพันธ์ของมหามิตรในภูมิภาคคือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แนบแน่นเพื่อเป็นแรงต้านอำนาจจีนไม่ให้มีอิทธิพลมากเกินไปในบริเวณนี้ แต่ญี่ปุ่นกับเกาหลีก็มีเรื่องกินใจกันในประวัติศาสตร์มายาวนานอีกเช่นกัน (เกาหลีถูกญี่ปุ่นยึดครองยาวนานตั้งแต่ 1910 ถึง 1945)

          การดำเนินการทูตของอเมริกาภายใต้เงื่อนไขที่เป็นผลพวงมาจากประวัติศาสตร์ดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ อย่างไรก็ดี Caroline ก็ไม่ธรรมดา เธอมีการศึกษาดี มีกึ๋น มีประวัติชีวิตที่ไม่ด่างพร้อย และการเป็นลูกสาว JFK นั้นมีความหมายมากเพราะคนญี่ปุ่นมีความผูกพันทางใจกับ JFK ภาพที่ลูกเล็ก ๆ 2 คนวิ่งเล่นอยู่ใกล้โลงศพพ่ออย่างไร้เดียงสาในพิธีศพนั้นตรึงใจคนทั่วโลกมายาวนาน

          ชาวโลกขอให้กำลังใจหญิงเก่งคนนี้ให้ทำงานสำเร็จเพื่อสันติภาพของโลก